วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553

สถานที่ท่องเที่ยว

เมืองโบราณ
เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2506 โดยนายประไพ วิริยะพันธุ์ นักธุรกิจเจ้าของบริษัทวิริยะประกันภัย เป็นสถานที่รวบรวมวัฒนธรรม ของไทย อาทิ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคอีสาน เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2515
เมืองโบราณตั้งอยู่ในเขตตำบลบางปูใหม่ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 33 ถนนสุขุมวิท (สายเก่า) ห่างจากตัวจังหวัด 8 กิโลเมตร มีพื้นที่ 800 ไร่ ลักษณะที่ดินมีผังบริเวณคล้ายรูปขวาน เหมือนกับอาณาเขตของประเทศไทย [1] ภายในจะมีโบราณสถาน ปูชนียสถาน วัดโบราณ พระราชวัง ต่างๆ เป็นต้น และยังมี ส่วนรังสรรค์เป็นสถานที่สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของไทย มีไว้จัดแสดงที่นี่ด้วย
ใน
พ.ศ. 2549 รายการอเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 6 รายการเรียลลิตี้โชว์ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกาได้นำผู้เข้าแข่งขันมาแข่งรอบชิงชนะเลิศที่นี่ โดยใช้ศาลาพระอรหันต์ซึ่งเป็นศาลากลางน้ำขนาดใหญ่เป็นรันเวย์ และถือได้ว่าเป็นเวทีเดินแบบที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการ นอกจากนี้ยังใช้พื้นที่ภายในพระที่นั่งสรรเพชญปราสาทจำลองเป็นสถานที่ในการตัดสินผู้ชนะอีกด้วย
วันที่
29 กันยายน พ.ศ. 2552 กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จำนวน 500 คน นำโดยนายวีระ สมความคิด ได้เดินทางมายังเมืองโบราณ เพื่ออ่านแถลงการณ์ในนามเครือข่ายภาคีทวงคืนดินแดนแผ่นดินไทย จะดำเนินการทุกวิถีทางตามกรอบของกฎหมาย เพื่อทวงคืนแผ่นดินไทยรอบปราสาทพระวิหารมาเป็นของคนไทย จะดำเนินคดีกับคนที่ทำให้แผ่นดินไทยต้องถูกรุกล้ำ และทำให้เสียดินแดน ขอให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำแผ่นดินไทยออกนอกพื้นที่ และประณามคณะกรรมการมรดกโลกที่บิดเบือนข้อเท็จจริงและลำเอียง หลังจากนั้น ทั้งหมดได้ร่วมกันเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสา ร้องเพลงชาติไทย ดังกึกก้องเมืองโบราณ
ภายในเมืองโบราณยังมีค่ายพักแรม ชื่อว่า "ค่ายริมขอบฟ้า"
สำหรับบางคนแล้ว อดีตนับเป็นสิ่งเลวร้ายที่ไม่น่าจดจำ แต่กับ เล็ก วิริยะพันธุ์ แล้ว อดีตถือเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างปัจจุบันกับอนาคต ซึ่งชายชื่อเล็กแต่มักจะทำอะไรใหญ่ๆ ก็ได้สะท้อนแนวคิดนี้ออกมาด้วยการสร้าง เมืองโบราณ ขึ้นมาในปี พ.ศ. 2506 ด้วยการจำลองสถาปัตยกรรม และศิลปกรรมชิ้นโบว์แดง 76 จังหวัดทั่วไทยมารวมไว้ ในผังบริเวณ (สมัยนั้น) ที่จำลองให้คล้ายไทยแลนด์แดนขวานทอง และเมื่อแล้วเสร็จ ก็เปิดตัวอวดโฉมต่อสายตานักท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2515
หลังจากนั้นเมืองโบราณก็สร้างโน่น สร้างนี่ เก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อย ซึ่งนับวันก็มีแต่น่าสนใจมากขึ้น ณ วันนี้ หากไปเที่ยวเมืองโบราณนอกจากเราจะได้เที่ยวชมและสัมผัสกับสุดยอดสถาปัตยกรรม และศิลปะกรรมจำลองแล้ว เรายังจะได้สัมผัสกับบรรยากาศแห่งอดีต ที่น่าจะหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในเมืองไทย
เริ่มกันตั้งแต่พอเสียเงินตีตั๋วค่าเข้าชม ทางเมืองโบราณก็ทำเก๋ด้วยการมีสตางค์รูเหรียญละ 20 บาท ให้แลกเอาไว้ใช้ซื้อของเฉพาะในเมืองโบราณ (ไม่สามารถนำไปใช้ข้างนอกได้) หรือเก็บกลับบ้านเป็นที่ระลึก เมืองโบราณจัดวางผัง ให้คล้ายแผนที่ประเทศไทย ฉะนั้น ตั้งแต่ประตูทางเข้า จะเป็นการเริ่มเที่ยวจากภาคใต้ ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ หากไปถึงช่วงเช้า เดินจากภาคใต้ขึ้นไปถึงภาคกลาง ก็จะถึงโซนตลาดน้ำช่วงกลางวัน บริเวณนี้ มีร้านค้า และร้านอาหารโบราณหลายร้าน อยู่รายรอบ
การมาเที่ยวเมืองโบราณ ให้คุ้มค่า ควรใช้เวลาเต็มวัน เช้าถึงเย็น ส่วนรูปแบบการเที่ยวในเมืองโบราณก็มีทั้งเดิน ขี่จักรยาน (มีให้เช่า) นั่งรถราง และขับรถส่วนตัวชมเมืองโบราณ การขี่จักรยานชมเมืองโบราณ อาจถือว่าเป็นวิธีการเที่ยวเมืองโบราณที่ได้อรรถรสที่สุด เพราะจะไปถึงจุดที่ต้องการชม คล่องตัว รวดเร็ว เป็นการออกกำลังกายอีกทางหนึ่ง หรือจะซื้อตั๋วรถราง ซึ่งมีวิ่งตลอดวัน พร้อมมีไก๊ดบรรยาย อยากแวะลงจุดไหนก็ได้ตามสะดวก เมื่อเดินชมเสร็จ ก็รอรถรางคันต่อไป ส่วนขับรถชม บางจุดรถก็ผ่านไม่ได้
อย่างกับที่ ตลาดโบราณ หรือ ตลาดบก ที่อยู่ตรงช่วงกึ่งกลางผังรูปด้ามขวานทอง นี่หากขับรถ จะได้แค่ผ่าน แต่ถ้านำเจ้าจักรยานเข้าไปในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ละก็ ขอบอกว่า สนุกมาก เพราะในนั้นนอกจากเราจะได้ดูการจำลองบรรยากาศตลาดในอดีต ที่หาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เรายังจะได้เพลิดเพลินไปกับการชม การช้อปของกิน ของขายแบบโบราณ โดยมีพ่อค้าแม่ค้าหน้าตาสมัยใหม่ปนโบราณแต่งชุดไทยพื้นขายของแบบน่ารักน่าซื้อมาก
ขอแนะำนำให้ไปเที่ยวชม พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท ที่เพิ่งจะบูรณะใหม่ทั้งข้างนอกข้างใน ซึ่งถือเป็นดังหัวใจของเมืองโบราณ นอกจากนี้ยังใช้เป็นฉากสำคัญในภาพยนตร์เรื่องพระศรีสุริโยไท และในระหว่างทางควรแวะดูจุดที่น่าสนใจต่างๆ ในเมืองโบราณ อาทิ ศาลาการเปรียญวัดใหญ่สุวรรณราม จ.เพชรบุรี ที่งดงามด้วยเรือนไม้สัก บนศาลามีของประดับน่าสนใจให้เดินชม ส่วนข้างล่างมุมหนึ่งเป็นห้องทำงานของคุณเล็กในช่วงก่อนที่จะเสียชีวิต โดยข้างๆ มีแบบจำลองขี้ผึ้งของ ปราสาทสัจธรรม 1 ในสุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมแดนสยามที่กำลังก่อสร้างอยู่ ณ เมืองพัทยา พระพุทธรูปทวารวดี แห่งเมืองนครชัยศรี ที่เป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาขนาดใหญ่ประทับนั่งห้อยพระบาทโดดเด่น สวยงาม
และเมื่อถึงที่พระที่นั่งสรรเพชญฯ ก่อนเข้าชมภายใน ควรเดินสำรวจชมความงามรอบๆ พระที่นั่งฯ ที่สร้างขึ้นในสมัยพระบรมไตรโลกนาถ แห่งกรุงศรีอยุธยา โดยรวบรวมเอาเอกลักษณ์แห่งความเป็นอยุธยาเข้าไว้ด้วยกัน ไล่ไปตั้งแต่เสา หลังคา ลวดลายประดับต่างๆ โดยทางเมืองโบราณได้ค้นคว้าจากหลักฐานต่างๆที่เหลือ ก่อนที่จะมาถอดแบบเป็นผังและก่อสร้างออกมาโดยย่อลงมา 3 ใน 4 ส่วน จากของจริง ซึ่งไม่ได้งดงามแค่ภายนอกเท่านั้น
เพราะเมื่อเราย่างเท้าเข้าสู่ภายใน ความรู้สึกร้อนจากอากาศด้านนอกได้แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกทึ่งแทน เนื่องจากภายในพระที่นั่งฯ ล้วนแต่งงดงามวิจิตรไปหมด ผนังงดงามด้วยลายปูนปั้นลงรักปิดทอง และประดับด้วยกระจกสี เพดานงดงามด้วยดาวเพดานหน้าต่างงดงามลายประดับมุก พระที่นั่งของทั้ง 2 ฝั่ง งดงามด้วยงานแกะสลักไม้อย่างมีฝีมือ ส่วนพระที่นั่งองค์กลางมีภาพจิตรกรรมเรื่องนารายณ์ 10 ปาง ประดับผนัง ช่วยให้ดูงดงามน่าเดินเที่ยวมากขึ้นไปอีก
จุดที่น่าสนใจต่างๆ ซึ่งทางเมืองโบราณได้แบ่งออกเป็นภาค
ภาคกลาง นอกจากพระนั่งสรรเพชญฯ ก็มีจุดน่าเที่ยว อาทิ มณฑปพระพุทธบาท จ.สระบุรี พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ที่อยู่ในพระบรมมหาราชวังในกทม.นี่เอง
ภาคเหนือ ที่โดดเด่นน่าชมก็มี หมู่บ้านไทยภาคเหนือ ให้อารมณ์ล้านนา ที่สงบ ร่มรื่น น่านั่งแช่เป็นวันๆมาก ส่วนวัดต่างๆก็โดดเด่นด้วยเอกลักลักษณ์เฉพาะตัวของวัดนั้นๆ ที่ไม่ควรผ่านเลยก็มี วิหารวัดภูมินทร์ จ.น่าน มองด้านนอกงดงามอ่อนช้อยมีบันไดพญานาคราช เลื้อยออกจากวิหาร ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยหันหน้าไปตามทิศทั้งสี่ เรียกได้ว่าถอดแบบจากของจริงมาสร้างได้อย่างไม่มีที่ติจริงๆ
ภาคอีสาน มีของดีให้ดูเพียบ ไปแล้วไม่น่าพลาดการชม พระธาตุพนม จ.นครพนม ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ ปราสาทหินพิมาย แห่งโคราช ส่วนใครมีแรงเดินก็น่าจะขึ้นไปชม ปราสาทเขาพระวิหาร ที่หากวันดีคืนดีเขมรปิดเขาพระวิหารอีก เราก็ไม่เห็นต้องง้อ ไปดูที่เมืองโบราณก็ได้ แถมไม่ต้องกลัวเหยียบกับระเบิดด้วย
ภาคตะวันออก มี ตึกแดง แห่งจันทบุรี สภาพดูเก่าแต่ก็มีความเก๋าตามแบบตึกไทยผสมฝรั่งเศส
ส่วน ภาคใต้ นี่ก็อยู่ในช่วงด้ามขวานของแผนที่ (อย่างที่กล่าวไว้คือผังบริเวณยุคต้นๆ จำลองมาจากแผนที่ประเทศไทย) ซึ่งเป็นจุดที่ขี่จักรยานผ่านมาในช่วงแรกๆ ซึ่งทางเมืองโบราณได้ทำผังเป็นรูปแผนที่ประเทศไทย จุดน่าสนใจของภาคใต้จึงอยู่ในช่วงพื้นที่ด้ามขวาน ห่างจากทางเข้ามาไม่มากนัก โดยจุดน่าชมระดับคลาสสิกก็มี พระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช พระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฏร์ธานี นอกจากนี้ เมืองโบราณก็ยังมีส่วนที่เป็นดินแดนแห่งโลกจินตนาการ เนื่องจากที่นี่ได้สร้างงานสถาปัตยกรรม ประติมากรรม ที่เกิดจากจินตนาการของผู้สร้าง ซึ่งก็มีคนนิยมไปเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก โดยจุดที่ไม่น่าผ่านเลยก็มี ศาลาทศชาติ ขบวนเสด็จพยุหยาตราทางชลมารค เรือสำเภาไทย เขาพระสุเมรุ ศาลารามเกียรติ์การเที่ยวชมเมืองโบราณถือเป็นเรียนรู้อดีตอันยิ่งใหญ่และทันสมัยอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าเรื่องราวในอดีตนั้นทำให้เราได้เรียนรู้ในปัจจุบัน และสามารถที่จะดำเนินชีวิตในอนาคตได้อย่างรู้เท่าทัน
PHOTO






































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น